วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

ปลูกบริการแล้วเก็บเกี่ยวความสุขใจ ได้ตังค์

ปลูกบริการแล้วเก็บเกี่ยวความสุขใจ ได้ตังค์





ผู้คนทั้งหลายในโลกนี้ อาจมีความแตกต่างกันในด้าน เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ผิวพรรณ วรรณะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปล้วนแต่มีความต้องการที่เหมือนกันนั่นก็คือ การต้องการความสุข การต้องการคนที่เอาอกเอาใจมีการบริการให้เกิดความประทับใจ ดังนั้นเรื่องการบริการให้จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราควรหันมาทำความรู้ความเข้าใจเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริการได้มีความสุขใจและมีทรัพย์อันเกิดจากการบริการนั้น         

จากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ ได้ให้ความหมายของคำว่า บริกรและบริการดังนี้

 บริกร เป็นคำนาม (bau-ri-gorn อ่านว่า บอ-ริ-กอน) มีความหมายว่า ผู้บริการ, พนักงานเสริฟ, waiter, one who give service, attendant, assistant

            ส่วนคำว่า บริการ เป็นคำกิริยา(bau-ri-garn อ่านว่า บอ-ริ-กาน) หมายถึง การอำนวยความสะอวด, การเกื้อกูล, การช่วย, การปฏิบัติรับใช้, การให้ความสะดวกต่างๆ to serve, to help, to assist, to support


            จากความหมายข้างต้น จะเห็นได้ว่า การบริการไม่ได้จำกัดความแคบแค่เพียงแต่การได้รับบริการจากร้านค้า โรงแรม ภัตตาคารหรือห้างสรรพสิ้นค้า เท่านั้น การบริการเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่ควรมีอยู่ในจิตใจของมนุษย์เราทุกคน เพราะหากถือตามความหมายดังกล่าวเบื้องต้น จะเห็นว่า ไม่ว่าบุคคลทุกเชื้อชาติ ศาสนา ต้องการได้รับบริการด้วยความจริงใจด้วยหัวใจด้วยกันทั้งสิ้น เพราะอะไร เพราะมนุษย์เราต้องอยู่อาศัยต้องพึ่งพา ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มนุษย์เป็นสัตว์สังคม หากเราไม่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ชีวิตคงต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน ตัวอย่าง เช่น เริ่มจากตนเอง หากอวัยวะในร่างกายของเราไม่ทำประเกื้อกูลประสานให้บริการซึ่งกันและกัน เช่น เราจะยกแขนซ้ายแต่กล้ามเนื้อและเอ็นไม่เกื้อกูลกัน เราก็ไม่สามารถจะยกแขนหรือใช้กล้ามเนื้อนั้น ๆ ได้ แม้แต่ในครอบครัวการคุณแม่ไม่ให้บริการอาหารเช้ากับลูกน้อยวัย 1-2 ขวบ สามีไม่ให้บริการอาหารใจ คำพูดที่ไพเราะแก่ภรรยา ลูกไม่ให้ความช่วยเหลือทำงานบ้าน อะไรจะเกิดขึ้น หรืออาจมองกว้างขึ้นมาในระดับสังคม หากรัฐบาลไม่ให้บริการกับประชาชน รถโดยสารประจำทางพากันหยุดบริการ สังคมเราคงจะเกิดความสับสนวุ่นวายเป็นแน่แท้

                ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการบริการนั้นจำเป็นจริง ๆ และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เราทุกคน เหมือนเราต้องบริโภคข้าวหรือคาร์โบโฮเดรตเพื่อให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย ส่วนพลังงานของจิตใจก็ต้องเสริมด้วยวิตามินด้านการบริการ คนไทยเราส่วนใหญ่รบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก เราจำเป็นต้องเพาะปลูกและหว่านข้าวในนาที่ดีมีความอุดมสมบูรณ์  ในการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งการบริการที่ดีล่ะ? เราจำเป็นต้องหว่านจิตใจที่เป็นผู้เพราะจิตใจของผู้ให้นั้นเป็นสภาพจิตที่เอ่อล้นออกไป เป็นสภาพที่เอื้อต่อยอดทางความดี

                การปลูกเมล็ดของการบริการนั้นไม่ยาก ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

เมื่อท่านปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งการบริการ แน่นอนเมล็ดพันธุ์แห่งการบริการย่อมเติบโตไปเป็นต้นกล้าแหงความสุข
และต้นกล้าแห่งความสุขก็ย่อมกลายเป็นพืชผลแห่งเมล็ดเงิน

                ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จในการบริการ เราควรหันมาสนใจและบ่มเพาะเมล็ดเงินต้นนี้ แน่นอนเมล็ดเงิน ย่อมเติบโตไปเป็นเงิน

จงปลูกบริการ  แล้วเก็บเกี่ยวความสำเร็จ ความสุข เงินทองซึ่งที่แท้จริงก็คือเรื่องของความมั่นคงในชีวิตเรา


                เทคนิคพิเศษ คือ เราต้องปลูกด้วยใจ ใส่ปุ๋ยเสริมด้วยทัศนคติที่ดี เพื่อให้บริการเหนือสิ่งอื่นใด
ขณะปลูกก็มีความสุข ทั้งผู้ปลูก (ผู้ให้บริการ)และผู้รอชื่นชมลิ้มลองพืชผลนั้น (ผู้รับบริการ)  มีความถามทิ้งท้ายไว้ว่า

วันนี้ คุณปลูกบริการให้คนรอบข้างและลูกค้าแล้วหรือยังค่ะ?” หากมีคำตอบว่ายัง ก็มีคำถามตามมาอยู่ว่า

แล้วคุณรออะไรอยู่หรือค่ะ?” 

เชื่อว่าคุณพร้อมแล้วเวลานี้ ลุยทำไร่เพาะปลูกเมล็ดเงินแห่งบริการกันเถอะค่ะ
www.goodthinkingtraining.com

                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น